Vivo บุกตลาดยุโรปพร้อมจับมือ UFA เป็นออฟฟิเชียลพาร์ทเนอร์

Vivo กำลังขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดยุโรป โดยระหว่างงานแถลงข่าวออนไลน์ต่อสื่อมวลชน บริษัทฯ ได้ประกาศการขยายตลาดสู่ 6 ประเทศในทวีปยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปแลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร

การเข้าสู่ตลาดยุโรปครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้วยการทำวิจัยและสัมภาษณ์ผู้คนจำนวน 9,000 คนทั่วยุโรป ตั้งเป้าที่จะทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคแต่ละราย โดยงานแถลงข่าวครั้งนี้ ตัวแทนจาก Vivo ยังได้ประกาศการร่วมงานกับหุ้นส่วนหลักต่างๆ รวมถึงเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์แรกของสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่ตลาดทวีปยุโรป

เดนนี่ เติง รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการธุรกิจภาคพื้นยุโรปของ Vivo กล่าวว่า “พวกเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการได้เข้ามาทำตลาดในยุโรป และขอใช้โอกาสนี้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ รวมถึงขอนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์แรกของเราสู่ตลาดยุโรป โดยปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับผู้คนและธุรกิจทั่วโลก สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก อย่างไรก็ตามความมุ่งมั่นต่อผู้คนและต่อธุรกิจของเราในยุโรปยังเหมือนเดิม สอดคล้องกับปรัชญาในการทำธุรกิจของเราเสมอมาคือการทำในสิ่งที่ใช่ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง โดยนับตั้งแต่ก้าวแรกของพวกเราสู่ตลาดนานาชาติในปี 2557 เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและคุณภาพแก่ผู้บริโภค ในฐานะที่เราคือแบรนด์ที่ผู้คนกว่า 370 ล้านคนทั่วโลกเชื่อมั่น เรามั่นใจว่าเราจะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั่วยุโรปได้

บริษัทสตาร์ทอัพอายุกว่า 25 ปี

Vivo บุกตลาดยุโรปพร้อมจับมือ UFA
Vivo ได้ตั้งสำนักงานในยุโรปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเชื่อชาติของพนักงานในบริษัทฯ โดยกลยุทธ์ธุรกิจระดับนานาชาติที่สำคัญของ Vivo คือ “more local, more global” หรือยิ่งเราเข้าใจท้องถิ่นที่เราเข้าไปทำธุรกิจมากเท่าไร เราก็ยิ่งก้าวสู่ความเป็นบริษัทระดับโลกมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสำนักงานใหญ่ทวีปยุโรปในเมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี มีพนักงานกว่า 70 คนจาก 16 สัญชาติทำงานร่วมกัน โดยทุกคนมีความเป็นมาและผ่านประสบการณ์จากหลายหลายอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค, ยานยนต์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์,การท่องเที่ยวและการโรงแรม รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน ปัจจุบัน ทีมงานประจำทวีปยุโรปประกอบด้วยพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 120 คน ทำงานร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรมจากประเทศที่ Vivo เข้าทำตลาด เพื่อทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ได้นำประสบการณ์ทรงคุณค่า ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกจากคนในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แบรนด์ Vivo ก่อตั้งครั้งแรกในปี 2538 โดยผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์บ้าน (landline) และฟีเจอร์โฟน (feature-phones) หรือโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบทั่วไป ก่อนเติบโตและพัฒนาไปสู่แบรนด์สมาร์ตโฟน Vivo ในปี 2554 ปัจจุบันนี้แบรนด์สมาร์ตโฟน Vivo มียอดขายเป็นอันดับสองในตลาดสมาร์ตโฟนประเทศจีน เป็นอันดับสองในประเทศอินเดีย และครองอันดับหนึ่งตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศอินโดนีเซีย1 ทั้งนี้ สมาร์ตโฟน Vivo มีวางจำหน่ายในกว่า 30 ตลาดทั่วโลก และมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 9%2 ยิ่งไปกว่านั้น หากนับเฉพาะสมาร์ตโฟน 5G แบรนด์ Vivo สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกถึง 12.9%

Vivo มีโรงงานผลิตถึง 5 โรงงาน แบ่งเป็น 2 แห่งในประเทศจีนและอีก 3 แห่งในประเทศบังกลาเทศ อินเดีย และอินโดนีเซียตามลำดับ

“เมื่อเรามองย้อนกลับไปดูตลอดเส้นทางการเติบโตของเรา ต้องขอบคุณความทุ่มเทพยายามของเพื่อนร่วมงานของเราในศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 9 แห่งทั่วโลก โดยการร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญกว่า 10,500 คน ที่ร่วมกันพัฒนาสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ด้านซอฟต์แวร์ ด้านกล้อง ด้านเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงด้านเครือข่ายแห่งอนาคตอย่าง 5G ตลอดจนด้านการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงด้านการพัฒนาเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ ทั้งหมดเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานแก่ผู้ใช้งานทุกคน” มร. เติง กล่าวเพิ่มเติมVivo บุกตลาดยุโรปพร้อมจับมือ UFA

Vivo จับมือยูฟ่าส่งต่อความหลงใหลของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020
ในงานแถลงข่าว Vivo ยังได้ประกาศความร่วมมือกับสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่า (UEFA) สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปประจำปี 2020 และ 2024 โดยบทบาทของ Vivo คือการเป็น โกลบอล สมาร์ตโฟน (Global Smartphone) ของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

ทั้งนี้ ประธานกรรมการภาคพื้นยุโรปของ Vivo กล่าวสรุปว่า “เราได้ร่วมกันส่งต่อความหลงใหลต่อกีฬาฟุตบอลแก่เพื่อนของเราทั่วโลก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญของเราในการร่วมมือกับยูฟ่าในต่อการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยทั้งยูฟ่าและ Vivo ต่างแบ่งปันความหลงใหลต่อความสมบูรณ์แบบ รวมถึงนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าตื่นเต้นแก่แฟนคลับของเรา โดยการร่วมมือครั้งนี้นับเป็นคำมั่นสัญญาระยะยาวของเราต่อภูมิภาคยุโรป”

ขอบคุณแหล่งที่มา : businesstoday.co

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : xqparket.com